วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2567

ณ.ที่นี่ เวลานี้ 23:42น .พุธ 27 มีนาคม

         ช่วงเวลาหลายวันมานี้  ฉัน  เองก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แถมตอนนี้กายก็ไม่สบายนิดหน่อย ขณะที่ฉันยังคิด เเละทำทุกๆอย่างใจฉันเองก็เป็นกังวลอยู่ไม่น้อย ถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ฉันคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าทำไมชีวิตจึงต้องมีการแบ่งแยก บางทีอาจมีเหตุและผลต่างๆที่ซ่อนอยู่ฉัน อยากรู้จริงๆว่าเหตุผลเหล่านั้นคืออะไรกันเเน่ ช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันที่ทำให้ฉันนึกย้อนวัยกลับไปนึกถึงเรื่องราวเก่าๆ นึกถึงความหวังเก่าๆ ทุกอย่างดูชัดเจนมากๆ ฉันเห็นความรักที่บริสุทธิ์ ฉันเห็นรอยยิ้มที่จริงใจ ไร้สิ่งใดเเอบแฝง ไม่มีแม้แต่ราคะและตันหาใดๆ เลย ในแววตาคู่นั้น ฉันมองดูเธอด้วยความแปลกใจ สิ่งต่างๆผุดขึ้นในความคิดฉันมาเต็มไปหมด ทั้งคำถาม และความกลัว  ฉันรู้สึกถึงความรักที่แสนจะบริสุทธิ์จากดวงตาคู่นั้น แต่อีกใจหนึ่งฉันก็แปลกใจมากๆ ว่าสิ่งที่ฉันตามหามาทั้งชีวิต พอจะเจอก็เจอแบบไม่ตั้งใจ ฉันจำทุกอย่าง ของเธอได้ ฉันเริ่มรู้จักและเริ่มรักธอ เราพูดคุยถูกคอ แต่บางทีก็มีหลายๆอย่างที่ฉันประหลาดใจ เธอชอบคิด และมีมุมมองที่ตรงกับฉันมากๆ แต่ทุกอย่างกลับดูแย่ลง เมื่อฉันตัดสินใจที่จะคบกับเธอทางบ้านของเธอหลับไม่ยอมรับในตัวฉัน เพราะทั้งด้านการงานและสถานะทางสังคม  เรามีความแตกต่างกันมาก ถึงแม้ฉันจะมีความรู้อยู่ไม่น้อย แต่ฉันก็ไม่มีโอกาสที่จะใช้ความรู้เพื่อจะสร้างตัวตน จนทำให้ทางบ้านไม่สามารถยอมรับฉันได้ ตอนนั้นในใจรู้สึกว่า ฉันกังลังทำอะไรอยู่  ทำไม่ฉันจึงกล้าที่จะทำแบบนั้น เพราะฉันก็รู้ตัวเองดีอยู่ว่าฉันไม่คู่ควรกับเธอเลยด้วยซ้ำ แต่คงเป็นเพราะความรักที่ฉันตามหามาตลอด เลยทำให้ฉันกล้าที่รักเธอถึงฉันจะรู้ว่ามันไม่อาจเป็นไปได้  แต่เมื่อความรักมันเข้ามามันก็เบียดความคิดต่างๆหล่นหายไปหมดสิ้น ฉันรู้สึกเสียใจ เมื่อความหวังมันเริ่มเลือนหายไป ในเมื่อ สิ่งที่ฉันหามาทั้งชีวิต พอเจอได้ไม่นานก็หล่นหายไปในช่วงเวลาสัันๆ ฉันร้องให้เสียใจ อย่างบอกไม่ถูก  อีกอย่างคำถามเรื่อง ความรัก กับฐานะทางสังคม มันก็เข้ามา ฉันไม่รู้ว่าทำไมสองอย่างนี้ จึงมาอยู่ด้วยกันได้ ทั้งที่ความรัก มันไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยด้วยซ้ำ ฉันคิดอยู่นานมากๆ แต่ก็ยังไม่เข้าใจ จนฉันเห็นว่า เป็นเรื่องผลประโยชน์ที่คนสองคนนั้นจะอยู่กันอย่างมีความสุข ในภายหลังแต่ที่สุด ความสุขจริงๆมันคืออะไรกันแน่ การใช้จ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยน สิ่งเหล่านั้นมันเป็นความสุขแบบใหนกัน เพราะชีวิตดำรงอยู่ด้วยปัจจัย 4ไม่ใช่เหรอ แค่มีปัจจัย4 ความรักก็เป็นไปได้ ใช่หรือเปล่า
แต่เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทุกคน เดินเข้าหากันด้วยผลประโยชน์มากกว่าความดี ดังนั้นถึงแม้เราจะเป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต แค่ใหนก็ตาม ถ้าเราไม่มีเงิน ทรัพย์สิน สมบัติ เราก็ ไม่มีค่าอยู่ดี ดังนั้นทุกวันนี้ฉันก็ไม่น่าเเปลกใจเลย ว่าวันนี้คนดีหายไป มีแต่เรื่องของผลประโยชน์มากกว่าที่ยึดโยงสังคมไว้ด้วยกัน มันก็ไม่แปลก ที่ใครอยากสุขสบาย แต่ความสุขสบายเหล่านั้นละคงทนแค่ใหนที่จะสร้างความสุขจริงๆได้ สุขโดยที่ไม่มีผลประโยชน์ทางสังคมมาเกี่ยวข้อง สุขแม้จะไม่มีอะไรเลย สุขที่แท้จริง
ฉันไม่รู้หรอกว่าใครจะคิดยังไง แต่ ฉันเองก็ยังมั่นใจว่า ความสุขที่แท้จริง มันอยู่ส่วนใหนสักที่หนึ่ง บน ที่อันไม่มีประมาณแห่งนี้ ดังนั้นถ้ามีคนพูดถึงความรัก ที่มีส่วนของผลประโยชน์เข้ามา เกี่ยวข้อง ก็พึงระลึกไว้เสมอว่า คุณถูกตัดสินไปแล้ว ตั้งแต่ยังไม่รู้จักคุณดีเลย ด้วยซ้ำ และถึงแม้คุณจะดันทุรังไป คุณก็ต้องเจ็บปวด อยู่ดี และอีกอย่างคนที่ตัดสินคุณ คนเหล่านั้นไม่ไม่รู้จักเรื่องความรัก เลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ตอนนี้ ฉันจะยังเจ็บ แต่ฉันก็พยายามมาเขียนเพื่อบอกช่วงเวลาชีวิต ให้ฉันได้จำ ตอนนี้ถึงฉันจะง่วงมากๆ ก็พยายามเขียนมันให้จบ เอาเป็นว่าฉันคงต้องเขียนไว้แค่นี้ ถึงแม้จะมีอีกหลายอย่าง ที่ฉันเข้าใจ แต่ก็คงเขียนต่อไปไม่ไหว ขอพักไว้ก่อน