วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คำสอนจาก สรวง สวรรค์


            อันที่จริงชีวิตของคนเรานั้นมันมีจิตส่วนหนึ่งที่อยู่ลึกลงไปเป็นจิตแห่งสัญชาตญาณจิตส่วนนี้จะมีทั้งดีและก็ไม่ดี
อยู่รวมกันแต่ในความเป็นคนในปัจจุบันคนเราไม่สามารถที่จะมุ่งเดินไปในทางที่ดีได้เพราะทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายมันมาผลักดันให้คนเราจำต้องลืมส่วนที่ดีของตัวเองไปหลายคนเริ่มกระทำตามใจตนเองจนลืมนึกไปถึงความผิดชอบชั่วดีมันเป็น
สิ่งที่สังคมในปัจจุบันโหยหา ผู้นำเริ่มเห็นแก่ตัว หลายคนเริ่มเนรคุณแผ่นดิน ไม่ระลึกถึงพระคุณของในหลวงเริ่มการกล่าวหาด่าทอโดยไม่เคยนึกเลยว่าท่านเคยเหน็ดเหนื่อยมาเท่าไร เพื่อที่จะเชิดชูให้แผ่นดินไทยที่พวกท่านยืนอยู่นั้นสูงพอที่จะไม่ให้เกิดปมด้อยของชาวต่างชาติ แต่พอหลายคนได้ยืนอยู่บนจุดนั้นกลับทนงตัวเองว่าเพราะตัวเขาเองที่ยิ่งใหญ่จึงยืนอยู่ได้ ไม่มีความคิดถึงพระคุณของพระเจ้าแผ่นดินเลย หลังจากนั้นแผ่นดินถิ่นนั้นก็เลยต่ำลง ต่ำลง เพราะคนพวกนั้น
จนเกิดเป็นกาลียุค ผลต่าง ๆจึงตามมา เกิดภัยพิบัติมากมาย และมันก็ยังจะเกิดต่อไปอีกเรื่อยๆจนกว่าคนไทยจะระลึกถึงความดีได้ ภัยทุกอย่างจึงจะสงบ  แต่เมื่อครั้งนั้นมาถึงคนชั่วก็จะไม่มีอยู่บนแผ่นดินไทยอีกต่อไป จะเหลือก็แต่คนดีที่มีศีลธรรม หลายคนในตอนนี้อาจจะคิดว่าวันนี้มันดีมากในด้านเทคโนโลยี แต่ถ้าลองมองสังคมอีกด้านมันไม่ดีเลย เพราะอีกด้านที่ว่านั้นก็คือจิตใจของคน ทุกวัน ๆ มันยิ่งจะต่ำลงจนจมดิ่งลึก ลงห้วงเหว   เด็กที่อายุน้อย แต่กลับมีแต่ความต้องการทางเพศสูง ผู้ใหญ่ก็มุ่งแต่หาเงิน ไม่ว่าเงินนั้นจะสะอาดหรือไม่ ก็ไม่สนใจ หวังอย่างเดียวคือ ให้ได้มา นั่นคือคนในปัจจุบัน
ยุคนี้  จะเป็นยุคสุดท้ายของคนก็ได้ เพราะหากเกินกว่านี้ ใจของคนก็ไม่ได้ต่างเลยกับสัตว์  ภัยพิบัติแต่ละครั้งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่ มาเพื่อ ที่จะตอกย้ำคน แต่มันเกิดขึ้นเพื่อจะยกระดับจิตใจของคน ว่าตอนนี้ใจของคนนั้นต่ำเกินไปแล้วจึงเป็นการเตือน แต่เมื่อเตือนครั้งแรกคนยังไม่ฟัง มันก็ต้องเพิ่มความรุนแรง เพื่อนให้คนเกิดความรัก กัน เกิดความสามัคคี
 ช่วยกันรับมือ หากใครคิดได้ แล้วยอมกลับใจ ธรรมชาติก็ยังให้อภัย เพราะภัยครั้งที่ผ่านมามันไม่ได้เป็นครั้งสุดท้าย แต่ครั้งหลังมันจะเพิ่มความรุนแรงหลายเท่า  หากจิตใจของคนยังต่ำทรามอยู่ แต่ถ้าคนหยุดความเห็นแก่ตัว หยุดเห็นแก่เงิน หยุดกระหายทางเพศ วันนั้นเราก็จะได้อยู่ดูท้องฟ้าที่สวยงามที่สุด ด้วยกัน คนเราจะดีไม่จำเป็นต้องพึ่งใครอย่าหวังพึ่งผู้นำ เพราะเราย่อมเป็นผู้นำของตัวเอง หากทุกคนดี บ้านเมืองก็สงบในหลวงของเราก็สบายใจ แล้วผู้ก็จะไม่จำเป็นอีกต่อไปกฎหมายก็ไม่จำเป็น สังคมก็จะสงบแต่ถ้าเราอยู่ไปวัน ๆให้มันผ่านไป วันแห่งความเจ็บปวดนั้นมันมาถึงแน่นอน คนที่กำลังคิดว่าตนเองเก่ง ตนเองมีหลายพันล้าน ตนเองสามารถ กำหนดชะตากรรมของประเทศได้ด้วยเงิน คนนั้นแหละที่จะทรมานที่สุดเมื่อวันนั้นมาถึง คนธรรมดาไม่มีใครไปลงโทษคุณหรอกเพราะเขาคงไม่เห็นในความเลว แต่ ธรรมชาตินั้นแหละที่มอง ทุกการกระทำของมนุษย์เห็นและกำลังรอวันที่จะลงโทษ ให้มนุษย์เหล่านั้นต้องทุกข์ทรมานเหนือจะคณานัป จะตายก็ไม่ตาย จะ อยู่ก็อยู่ไม่ได้ ฉะนั้นคนเราต้องทำความดีเพราะความดีนั้นมันชนะทุกอย่าง                                                          
                                                                                                                                      
                                                                                                                                          ด้วยความเคารพในเสรีภาพของทุกคนคับ
                                                                                             นาย สุธา สุวรรณเวลา

วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

คำถาม คาใจ

 คำถาม คาใจ
          หลังจากที่ใครหลาย ๆ คนได้ผ่านวันและเวลา มา มากมาย คงจะมีหลาย สิ่งหลายอย่าง ทีติดอยู่ภายในด้วยความสงสัย และนั่นก็คือ ปัญหาคาใจ บางคนอาจจะมีปัญหาเพียงเล็กน้อย แต่บางคนก็มีปัญหาที่ หนักเกินกว่า ที่จะต้องทนแบกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นใคร เมื่อเกิดคำถามขึ้นมาจากใจเราเองแล้วเราก็คง อยากที่จะรู้ถึงคำตอบเหล่านั้น แต่จะมีสักกี่คนที่กล้าที่จะเอ่ยถาม ผู้อื่นเพื่อที่จะทราบคำตอบเหล่านั้น เพราะบางทีคำตอบที่ได้รับอาจจะเป็นคำตอบที่เราไม่อยากจะฟังก็ได้ และหากเราไม่อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งที่เราต้องการรู้เราก็ไม่ควรที่จะรู้  เช่นเมื่อเราได้เกิดความรัก แต่เราไม่ได้รับ ความสมหวังในครั้งนั้นเพราะคนที่เรารักไม่อาจจะรักเราได้ ในเหตุ ผลต่าง ๆก่อนที่เราจะถามตัวเองว่าเพราะอะไรที่เราไม่สามารถลงเอยกับเขาคนนั้น เราก็ควรที่จะ เอาเหตุผลในหลายด้าน มากลั่นกรองดูก่อน เช่น เรานั้นดีแค่ใหน และมีความจริงใจมากเพียงใด และเขา มีใครอยู่หรือเปล่าถ้าเราคิดดูให้ครบทุกด้านในตัวเราแล้ว มันก็จะเกิดคำตอบขึ้นมาจากตัวเราเอง โดยไม่ต้องไปถามเขาว่าเพราะอะไร เพราะคำตอบที่เกิดจากเราเองนั้น จะไม่ทำร้ายเรา ด้วย แต่ถ้าเกิดเป็นคำตอบจากเขา บางทีทั้งสีหน้า น้ำเสียงเหล่านั้น อาจ ย่ำยีเราให้จนไม่สามารถที่จะ กล้ารักใครอีกในครั้งต่อไปก็ได้

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ความหวังแห่งชีวิต

                                          ความหลังของคนเรา
     ความคิดและความทรงจำของคนเรามีอยู่ด้วยกันทุกคนไม่ว่าจะในด้านบวกหรือลบ
คนเราก็จะมีเหมือนกันทั้งสิ้นคนรวยและคนจนใช้ก๊าซชนิดเดียวกันเพื่อหายใจและยืนอยู่ในพืนดินเดียวกันแต่ฐานะทางการเงินก็เหมือนจะแบ่งแยกสิ่งเหล่านี้เอาไว้อย่างเป็นสัดส่วนที่ต่างกันมากทั้งที่จริงแล้วมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อก่อน ใครที่ทำดีก็ได้รับการยกย่อง
แต่ปัจจุบันความดีนั้นซื้อกันได้ด้วยเงิน อันที่จริงคนที่กระทำความดีจริงๆในยุคปัจจุบันนี้ก็ยังมีไม่น้อย แต่พวกเขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่ปิดทองหลังพระ ยิ่งทำมากก็ยิ่งน้อยคนเห็นเพราะถูก กำบังด้วยอำนาจของเงินทองและถูกกีดกันออกไป คนที่ร่ำรวยก็จะได้มาแทนที่ของคนดี จะว่าเงินในปัจจุบันนั้นเป็นปัจจัยหลักก็ว่าได้  เมื่อก่อนครูเคยสอนเอาไว้ว่า
การที่คนเราจะอยู่รอดนั้นต้องมี สี่ปัจจัยเป็นหลัก คือ 1.อาหาร ใช้เพื่อบรรเทาความหิวโหยและเพื่อให้กำลังงาน 2.เครื่องนุ่งห่ม ใช้เพื่อปกคลุมร่างกายจากสภาพอากาศที่แปรปรวน 3.ที่อยู่อาศัย ใช้เพื่อหลบแดด ฝนและพักผ่อน 4.ยารักษาโรค ใช้เพื่อรักษาร่างกายจากโรคภัยต่างต่าง ที่ร่างกายได้รับและผิดปกติไป  แต่ทั้ง สี่อย่างล้วนหาได้จากเงินทั้งนั้น ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเงินเป็นสิ่งสำคัญที่มาเป็นที่ หนึ่ง ไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม
แต่หากมองย้อนกลับไปนั้น ยังมีสิ่งหนึ่งที่มีคุณค่ามากกว่าเงินมากยิ่งนัก นั่นก็คือคุณค่าของความเป็นคนนั่นเอง การรู้จักผิด และให้อภัย การเอื้อเฟื่อ คนในสังคม ด้วยกันความรู้สึกสงสารโดยจิตใต้สำนึกของตัวเราเอง เพราะสิ่งเหล่านี้เราเสแสร้งทำมันไม่ได้และอำนาจของเงินก็บังคับมิได้เช่นกัน ภายใต้ร่างกายของคนเราอาจจะมีอำนาจบางอย่างแฝงอยู่คือชั่ว และดี หากให้อำนาจชั่วมาก ร่างกายก็จะชั่ว แต่หากให้ความดีมากร่างกายก็จะดีตาม การกระทำทั้งหมดนั้นล้วนมาจากความคิดทั้งสิ้น คนคิดดีก็มักจะกระทำดี
          อีกอย่างคือความผิดพลาดในวันที่ผ่านมา
ผมก็เชื่อว่าไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยผิดพลาดไม่ว่าจะผิดน้อย หรือมาก ทุกคนก็คงจะเคยผิดมาด้วยกันทั้งนั้น บางคนความผิดครั้งนั้นอาจจะคอยติดตามตัวอยู่อยากจะสลัดมันออกไปก็ทำไม่ได้เพราะมันมากมายเหลือเกิน แต่หากคิดให้ดี สิ่งนั้นอาจจะดีสำหรับวันนี้ก็ได้เพราะนั่นเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับเราและไม่มีใครจะมาแย่งเราไปได้ คนที่ไม่เคยพลาดไม่มีวันเห็นความสำเร็จจงเชื่อไว้ในจุดนี้ และจงยอมรับในสิ่งที่เราเป็นอยู่และจงเชื่อว่า ผิดครั้งเดียวไม่สามารถตัดสินได้หรอก ถึงความดี ความชั่ว หากเรานำความผิดนั้นมาแก้ไขและเรียนรู้
ในวินาทีที่เราอยากจะลาโลกไปเพราะความผิดหากเราไตร่ตรองในความผิดแล้วแก้ใขมันนั่นซิที่ดีกว่า จงหวนมองคนที่ทุกข์ใจกว่าเรา เพราะเราไม่ได้ยืนอยู่เดียวดายบนโลกใบนี้ยามที่เราท้อแท้หรือสิ้นหวัง ยังคงมีอีก หมื่น แสน หรือ ล้าน ที่รู้สึกอย่างเราหรือมากกว่า เสียด้วยซ้ำ ฉะนั้นการที่เราได้ยืนอยู่บนจุดหนึ่งของสิ่งมีชิวิตที่เรียกว่าคน นั้นมันมักจะมีบททดสอบทางความคิดอยู่เสมอไม่ว่าจะจากคนด้วยกัน หรือจากธรรมชาติ
จงคิดว่าสิ่งไม่ใช่การตอกย้ำแต่จะเป็นการทดสอบชีวิตเรามากกว่า

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

    บางทีการที่เราต้องการจะเดินไปข้างหน้ามันก็๋อาจจะยากมากในความรู้สึกที่มาพร้อมกับความหวังลึกๆภายใน เราอาจจะกลัวที่จะพลาดกลัวที่จะเหนื่อย แต่ที่สุดของความกลัวนั้นมันไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องยอมแพ้หรือจะต้องหยุด แต่มันจะเป็นบททดสอบที่ดีของเรา และหากเรากล้าพอที่จะฝ่ามันไป สิ่งที่เราได้รับมันไม่เพียงแต่ว่าเราจะทำความหวังได้สำเร็จเพียงแค่อย่างเดียวแต่ มันจะมีทั้งความภูมิใจและความเข้มแข็งที่เกิดขึ้น จนทำให้เรารู้สึกกล้าที่จะทำ ในสิ่งที่เราต้องการจะทำ การที่เราจะทำอะไรขึ้นมา 1 อย่าง
แต่เราบั้นทอนมันลงไปด้วยความรู้สึกที่ว่าเราทำมันไม่ได้นั้นมันก็เปรียบได้กับบททดสอบดีๆของเรานั่นเอง
เพราะที่จริงแล้วเราทำสิ่งนั้นให้ดีได้แต่เราไม่กล้าที่จะทำมันเสียมากกว่า
           คนเรานั้นในความเป็นจริงแล้วในหนึ่งร่างกายเรามันมักจะมีสองความคิดสวนทางกันเสมอ
 มีด้านดี ก็มีด้านไม่ดี มีความกล้าก็มีความกลัว เข้ามาขัดแย้งแต่ที่แน่ๆ ผมคิดว่า ไม่มีด้านใหนอยู่เหนือ
ความตั้งใจได้ เพราะความตั้งใจจะสร้างความเชื่อมั้นความเชื่อมั้นจะขจัดความกลัวและเราก็จะทำทุกอย่างได้ด้วยตัวของเราเองได้แน่นอน  




วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554

ในวันที่อ่อนล้า

ความอ่อนล้ามันเป็นธรรมชาติที่ทุกคนรู้จักมันที่ทั้งในด้านของทางร่างกายและจิตใจบางคนก็มีวิธีจัดการที่ต่างกันออกไป บางคนอาจนิ่งเฉย แต่หลายครั้งที่เราเหนื่อยก็คงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่ากำลังใจกำลังใจนี้หาได้จากในหลายอย่างจากคนที่เรารัก หรือแม้แต่จากตัวของเราเอง การหากำลังใจจากตัวเองนั้นบางคนก็คงคิดว่ามันยากแต่ถ้าเราเข้าใจนั่นอาจจะเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตก็ได้ การไม่คิดว่าเราทำเพื่อใครแต่เพียงจุดมุ่งหมายเล็กๆหวังเพื่อเป็นรางวัลให้กับชีวิตในวันข้างหน้า
                           ยามที่เหนื่อยล้าที่สุดยามที่ไม่มีคนรอบข้างมองเห็นความสำคัญ
จงให้ของขวัญแก่ตัวคุณเองแล้วพรุ่งนี้ความเหน็ดเหนื่อยของคุณจะหายไป

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

ไม่มีอะไร

จริงๆแล้วชีวิตก็ไม่มีอะไรเลย แต่ที่เรามากว่าน่าค้นหานั้นมันมาจากการสร้างขึ้นโดยความคิดมากกว่าเวลาเราอยากจะทำอยากจะคิด ลองหยุดเวลาไว้สักครู่เหมือนมันว่างเปล่า เท่านั้นความต้องการทั้งหมดมันก็จะพลันหายไป และจะไม่มีความทุกข์อีก