วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ปล่อยให้มันผ่านไป

ครั้งหนึ่งที่เราจำได้ดี ครั้งหนึ่งของความผูกพันธ์ ครั้งหนึ่งของความสุข ที่เราเคยได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้า ครั้งหนึ่งที่เราเคยโอบกอดกันด้วยความรัก ผ่านเวลามาแสนเนิ่นนาน
จนเราต้องพรากจากกัน ทิ้งปมไว้ให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่เพิ่งเติบโต โดยไร้เดียงสา ถึงทุกวันนี้เรื่องราวแบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อย จนดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในทางกลับกันมันก็แสดงให้เห็นถึงความเสื่อมลงของวัฒนธรรมอย่างเห็นได้ชัด ผมเองก็คนหนึ่งที่ได้เจอกับชะตากรรมนี้  และผมเองก็ไม่แปลกใจเลยที่หลายๆคนตกอยู่ในสภาวะเดียวกัน เเละยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวัน ในโลกที่เทคโนโลยีเติบโต อย่างรวดเร็วผู้คนเข้าถึงกันได้มากขึ้น การพบปะกันของ ชาย-หญิง จึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามมา ซึ่งอันที่จริงถ้า ใจคนไม่ไขว้เขว มันก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปได้ ตรงกันข้ามเพราะความไม่แน่นอนทางจิตใจของคนใดคนหนึ่ง คนที่คิดแต่เรื่องส่วนตัวรักสนุกจนลืมภาระของตัวเอง คบชู้สู่ชาย ไม่มองถึงอนาคตของลูกและครอบครัว ยอมทิ้งความแตกร้าวไว้ข้างหลังเพื่อให้ตัวเองได้มีความสุข ทั้งที่จริง มันก็ไม่ผิดที่ใครๆก็อยากมีความสุข แต่เรื่องของจิตสำนึกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ทุกคนควรต้องมีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นเราก็เรียกตัวเองว่ามนุษย์ไม่ได้ ถ้าขาดองค์ประกอบทางปัญญา  แต่ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ ความใส่ใจในประเพณีจะไม่มีเหลืออีกแล้ว หลายคนทำตามใจตัวเอง ทำตามความสุขที่ตัวเองต้องการโดยไม่คิดถึงผลกระทบ ต่างๆ นาๆ และคำว่ารักคำว่าจริงใจ นั้น ก็เป็นแค่คำพูดใช้เพื่อให้ดู สวยหรูแค่นั้นเพราะส่วนลึกๆ แล้วมันมาจากความต้องการในผลประโยชน์มากกว่า จากอดีตถึงปัจจุบัน
คำว่ารักมันมีความหมายที่เปลี่ยนไปอย่างลึกลับ และคำว่าจริงใจ ก็แทบจะไม่มีเหลืออยู่เลยใน ทางความจริง ทุกอย่างในวันนี้มันดูน่าเศร้า กับสิ่งที่หลงเหลือ ในส่วนตัวผมเอง ก็ไม่ได้คิดจะตำหนิใครหรือโทษใคร  แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นไป คนที่ทนรับสภาพก็คือตัวเรา ผมผลักตัวเองออกมาได้ และเริ่มชีวิตใหม่ได้  พบกับคนที่ผมตามหาได้ ส่วนเรื่องรักที่แสนจะเลวร้ายในอดีตก็แค่เก็บไว้เป็นบทเรียนคอยเตือนใจ เก็บไว้สอนลูกที่กำลังเติบโต ถึงจะมีหลายคำถามจากลูกที่พ่ออย่างผมตอบไม่ได้ ก็เถอะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเจ็บปวดหายไป ผมเองก็จะตอบคำถามที่แสนสะเทือนใจเหล่านั้นให้ ลูกได้รับรู้ เอง