วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ความซื่อสัตย์ที่เเสนจะบริสุทธิ์


ผมคนนึงที่เคยยกมือไหว้หมา จนมีคนมองแล้วคิดว่าบ้าหรือเปล่า แต่ผมไม่ได้สนใจคนเหล่านั้นหรอกเพราะผมมีเหตุผลส่วนตัว ผมแค่บอกคนที่ถามไปว่าผมไม่ได้ไหว้อัตลักษณ์ความเป็นหมา แต่ผมไหว้ความซื่อสัตย์ของเค้าโดยยกตัวอย่างสั้นๆไว้ว่าเราเลี้ยงคนบางคนมาเป็นสิบ ยี่สิบปี เราสอนเค้า เค้าไม่พอใจเค้าโกรธถึงขั้นที่จะฆ่าเราได้เลย แต่เราให้ข้าวหมาบางตัวแค่คำเดียวเค้ายอมมอบกายถวายชีวิตให้เราได้เลย ถึงแม้เราจะทุบจะตีเค้าแค่ใหนเค้าก็ยอมรับความตายโดยเต็มใจ ไม่คิดจะเนรคุณแว้งกัดเราในภายหลังเลย แม้แต่น้อย เหตุการณ์ครั้งนั้นผมได้เห็นความซื่อสัตย์ที่แสนจะบริสุทธิ์ จากหมาจรจัดตัวนึง สัตว์ที่ผมเองเคยให้อาหารเค้าเพียงครั้งเดียวและก็เป็นเพียงเศษอาหารแค่เล็กน้อยเท่านั้น สัตว์ที่ผมโมโหเรื่องอื่นและเอาความโมโห ไปลงที่เค้า เมื่อผมได้สติผมเลยยกมือไหว้เค้าด้วยความเต็มใจโดยไม่ได้สนใจใครๆที่มองมา เพราะส่วนนึงในใจผมเองคิดว่าคนเหล่านั้น คนที่มองเข้ามา เค้าไม่มีค่าอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่กลับกันหมาจรจัดที่ไม่มีค่าใดๆกับใครคนอื่นกลับให้บทเรียนและมุมมองที่แตกต่างออกไป จริงอยู่ว่าความคิดเหล่านั้นมันเกิดขึ้นในตัวผมเอง หมามันไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แต่ความคิดทั้งหมดเหล่านั้นก็เกิดขึ้นภายใต้เหตุการณ์ ที่ถูกกระตุ้น ให้ความคิดเหล่านั้นผุดขึ้นมาในหัวของผม 




สุธา สุวรรณเวลา

วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567



พวกเจ้ากำลังจะพูดอะไร? อยากบอกว่าแขนขาที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ดวงตาที่พล่ามัว มือที่จับอะไรไม่เคยคงทน สิ่งเหล่านี้หรือ ที่เรียกว่าความสมบูรณ์แบบ และน่าภูมิใจ ในหลายมุมของโลกที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน พวกเขาเพิ่งลืมตาขึ้นมาดูโลกแล้วพวกเค้าผิดอะไร ที่ต้องแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นไว้ มันดูไม่สมเหตุสมผลเลยอีกอย่างคำดูถูกเหยียดหยามเหล่านั้นราคาของมันอยู่ตรงใหน พวกเจ้าแค่ทะยานอยากไปตามความพอใจที่พวกเจ้าอยากให้เป็นก็แค่นั้น การด้อยค่าความคิดและสัจธรรมของผู้ที่เห็นความจริงของโลก โดยปราศจากมายาคติ กลับถูกชื่นชมในยุคนี้ การกลบเกลื่อนความหวาดกลัวได้รับความนิยม ทั้งที่จริงแล้ว สิ่งเหล่านั้นยังคงอยู่และจะปารกฏออกมา เลิกหลอกตัวเองกันซักที และยอมรับในสิ่งที่ควรจะเป็น ไม่ว่าสิ่งใดก็ล้วนผุกร่อนและถูกกัดกินด้วยกาลเวลาทั้งสิ้น  ดังนั้นจงหาความพอดีให้ตัวเองซ่ะ จะได้ไม่ต้องดิ้นทุรนทุรายเมื่อทุกอย่างเกิดปรากฏต่อหน้า ทั้งสุขและทุกข์ที่เราเผชิญ มันเป็นแค่เรื่องธรรมดา คิดถึงความตายเข้าไว้ให้มาก เพราะวันนึงมันก็จะเกิดขึ้นแก่เราและคนที่เรารักเช่นกัน ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และ ดาวในท้องฟ้าก็มีอายุขัย เพืยงแต่เวลาจะจัดสรรค์ให้เท่านั้น เหล่านั้นแหละคือความจริงคือสัจธรรมของโลกธาตุ การเปลี่ยนแปลง ทั้งปวง ดังนั้น อย่าด้อยค่าซึ่งกันและกันแต่จงอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพและให้เกียรติเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ต่อกัน อย่าให้ความเกลียดชัง ความหึงหวง ความอิจฉาริษยา มาเป็นเครื่องสร้างความเศร้าหมองแก่จิตใจต่อกันเลย ทุกอย่างย่อมเกื้อกูลและส่งผลต่อกัน มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้หรือพลังงาน มีความเกี่ยวพัจกันอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นเมื่อโลกหมุนไป ความเสื่อมลงของโลกและจิตใจมนุษย์จึงผูกโยงกัน อย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมโลกแปรปรวนเปลี่ยนแปลงไป ถ้าเราย้อนมาดูจิตใจของคนในทุกวันนี้ แล้วพวกเจ้าจะเข้าใจคำว่าเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวเป็นยังไง 

สุธา สุวรรณเวลา