ครั้งหนึ่งที่เราจำได้ดี ครั้งหนึ่งของความผูกพันธ์ ครั้งหนึ่งของความสุข ที่เราเคยได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้า ครั้งหนึ่งที่เราเคยโอบกอดกันด้วยความรัก ผ่านเวลามาแสนเนิ่นนาน
จนเราต้องพรากจากกัน ทิ้งปมไว้ให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่เพิ่งเติบโต โดยไร้เดียงสา ถึงทุกวันนี้เรื่องราวแบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อย จนดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในทางกลับกันมันก็แสดงให้เห็นถึงความเสื่อมลงของวัฒนธรรมอย่างเห็นได้ชัด ผมเองก็คนหนึ่งที่ได้เจอกับชะตากรรมนี้ และผมเองก็ไม่แปลกใจเลยที่หลายๆคนตกอยู่ในสภาวะเดียวกัน เเละยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวัน ในโลกที่เทคโนโลยีเติบโต อย่างรวดเร็วผู้คนเข้าถึงกันได้มากขึ้น การพบปะกันของ ชาย-หญิง จึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามมา ซึ่งอันที่จริงถ้า ใจคนไม่ไขว้เขว มันก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปได้ ตรงกันข้ามเพราะความไม่แน่นอนทางจิตใจของคนใดคนหนึ่ง คนที่คิดแต่เรื่องส่วนตัวรักสนุกจนลืมภาระของตัวเอง คบชู้สู่ชาย ไม่มองถึงอนาคตของลูกและครอบครัว ยอมทิ้งความแตกร้าวไว้ข้างหลังเพื่อให้ตัวเองได้มีความสุข ทั้งที่จริง มันก็ไม่ผิดที่ใครๆก็อยากมีความสุข แต่เรื่องของจิตสำนึกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ทุกคนควรต้องมีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นเราก็เรียกตัวเองว่ามนุษย์ไม่ได้ ถ้าขาดองค์ประกอบทางปัญญา แต่ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ ความใส่ใจในประเพณีจะไม่มีเหลืออีกแล้ว หลายคนทำตามใจตัวเอง ทำตามความสุขที่ตัวเองต้องการโดยไม่คิดถึงผลกระทบ ต่างๆ นาๆ และคำว่ารักคำว่าจริงใจ นั้น ก็เป็นแค่คำพูดใช้เพื่อให้ดู สวยหรูแค่นั้นเพราะส่วนลึกๆ แล้วมันมาจากความต้องการในผลประโยชน์มากกว่า จากอดีตถึงปัจจุบัน
คำว่ารักมันมีความหมายที่เปลี่ยนไปอย่างลึกลับ และคำว่าจริงใจ ก็แทบจะไม่มีเหลืออยู่เลยใน ทางความจริง ทุกอย่างในวันนี้มันดูน่าเศร้า กับสิ่งที่หลงเหลือ ในส่วนตัวผมเอง ก็ไม่ได้คิดจะตำหนิใครหรือโทษใคร แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นไป คนที่ทนรับสภาพก็คือตัวเรา ผมผลักตัวเองออกมาได้ และเริ่มชีวิตใหม่ได้ พบกับคนที่ผมตามหาได้ ส่วนเรื่องรักที่แสนจะเลวร้ายในอดีตก็แค่เก็บไว้เป็นบทเรียนคอยเตือนใจ เก็บไว้สอนลูกที่กำลังเติบโต ถึงจะมีหลายคำถามจากลูกที่พ่ออย่างผมตอบไม่ได้ ก็เถอะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเจ็บปวดหายไป ผมเองก็จะตอบคำถามที่แสนสะเทือนใจเหล่านั้นให้ ลูกได้รับรู้ เอง
วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559
ปล่อยให้มันผ่านไป
วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559
ทุกอย่างที่หายไป
ในขณะที่เรากำลังเผลอตัวเราไม่รู้หรอกว่ามีอะไรเกิดขึ้นอยู่รอบๆข้างของเราบ้าง บางอย่างที่มีผลกระทบแต่เรากลับมองไม่เห็น สิ่งที่ไม่มีรูป รส กลิ่น เสียง แต่สามารถทำอันตรายถึงชีวิต นั้นก็คือเวลา ทุกคนรู้ดีว่าเวลา คือสิ่งที่ใช้กำหนด วัน เดือน และปี หรือมากกว่านั้น แต่นอกเหนือไปจากนั้นคือเวลาก็กัดกินชีวิตเราอยู่เช่นกัน ภายใต้กฏเกณฑ์ของธรรมชาติ คือชีวิตทุกชีวิตเกิดมา ต่อสู้ เรียนรู้ ขยายพันธุ์ และจากไป ห่วงโซ่เหล่านี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อสร้างสมดุลให้ธรรมชาติ ไม่มีชีวิตใดหนีชะตากรรมแหละห่วงโซ่เส้นนี้ได้ ในทางที่กลับกันขณะที่เวลาเดินไปแทนที่มนุษย์จะใช้มันให้คุ้มค่า แต่กลับตักตวง ความต่ำช้าเข้าสู่ตัวตน มากกว่าหาความสุขจนลืมตระหนักในความสำคัญเหล่านี้ จนทำให้จิตใจสกปรก และมี่อายุขัยที่น้อยลง นั่นไม่ได้เป็นเหตุบังเอิญ แต่ทุกอย่างมันมาจากผลที่มนุษย์ได้ก่อขึ้น การหลงใน รูป รส กลิ่น เสียง กายก็หยาบขึ้นจิตใจโสมม และช่วงอายุก็น้อยลง มันเกิดขึ้นตามเหตุตามผลและกฏของธรรมชาติ ความเป็นอยู่และการหลุดพ้นก็ไม่บังเกิด สุดท้ายเสียงโอดครวญ ก็ไม่จบสิ้น
อย่างไรก็ดี ทุกชีวิตเกิดมาด้วนความเท่าเทียม และเกิดขึ้นภายใต้สภาวะเดียวกันต้องการที่อยู่เหมือนกัน จะต่างก็แค่ระดับความเป็นอยู่เท่านั้น สุดท้ายและจุดจบก็ไม่ต่างกัน มีพบมีจากมีพรากจากกัน ไม่สิ้นสุด ทุกวันที่โลกหมุนไปทำไมเราไม่นึกใคร่ครวญในสิ่งดีๆ แต่ละนาทีที่เราใช้ไป ทำไมเราไม่ใช้มันให้คุ้มค่าใช้มันด้วยสติปัญญาที่เรามี สร้างแต่เรื่องดีๆขัดเกลาโลกใบนี้ให้สะอาด
เพราะทุกนาที มีการเกิด ทุกนาทีมีความตาย แต่เราเองไม่รู้เท่านั้นว่านาทีที่เท่าไหร่ที่เราจะจากไป แค่นั้นเอง สุดทางที่เราไม่เหลืออะไร สุดทางที่เราไม่เหลือใคร สุดทางที่เราทิ้งทุกอย่างเอาไว้ ความรัก ยศฐา บรรดาศักดิ์ แทนที่เราจะจากไปด้วยความขุ่นมัวเศร้าหมอง
มันจะดีกว่าไหม กับการที่เราจากไปด้วยความไร้กังวล เพราะถึงแม้เราจะดื้อดึงยังไงเราก็ฉุดดึงเวลาเอาไว้ไม่ได้และสุดท้าย ทุกคนก็พรากจากกัน
วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559
รักแท้สมควรตาย
ในเพศ ผมเองไม่รู้หรอกว่า คนแต่ละคนที่ผ่านชีวิตช่วงนี้มาได้ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่สำหรับผมเอง มันคือ ช่วงชีวิตที่ทุกข์ทรมานที่สุด ดูเหมือนสิ่งที่ผมเจอมันไม่ใช่ความรักเสียด้วยซ้ำ แต่มันเหมือนกองไฟ ที่คอยแผดเผา สิ่งที่เข้าไปใกล้ ให้หลอมละลาย ลงไป จากความสุขในตอนแรกมันเริ่ม จางหายไป จากสิ่งที่เคยมีค่า กลับเป็นแค่เศษผงฝุ่น ไม่เหลืออะไรเลย นี้เป็นบทเรียนดีๆ ที่แสนเจ็บปวด ในตอนแรกผมคิดว่ารักแท้ ของคนต่างเพศต่างพ่อแม่ มันมีอยู่จริงๆ ในที่นี้หมายถึงรักของหนุ่มสาว แต่มันเกิดขึ้นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
นี่มันไม่ใช่รักแท้ ซักหน่อย แต่มันเป็นรักที่เกิดจากความอยากรู้อยากเห็นและโหยหาในสิ่งที่ตัวเองหายไป มันเป็นเรื่องยากที่ประคองความรู้สึกเหล่านี้ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านปัญหาและเวลา ที่เป็นบทพิสูจน์อันแสนโหดร้าย แต่สำหรับคนที่ผ่านช่วงนี้ไปเลยวัยของความต้องการ จนย่างเข้าสู้วัยชรา นั่นแหละจึงจะเรียกได้ว่ารัก เพราะทุกๆ อย่างเกิดขึ้นด้วยเหตุและผล ทุกความรู้สึกก็เช่นกัน มันล้วนเต็มไปด้วยองค์ประกอบมากมาย เป็นสิ่งที่บอบบางและซับซ้อน สามารถแตกหักได้ตลอดเวลา หลายคนอาจเข้าใจและรู้จักถนอม แต่เมื่อคนสองคน ผลัดกันถือและดูแลสิ่งที่บอบบางอย่างนี้ วันใดวันหนึ่งก็อาจจะตกลงมาแตกเสียหาย จนซ่อมแซมไม่ได้
เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตผม ในตอนนี้ และมันทำให้ผมไม่อยากพบเจอหรือค้นหาสิ่งเหล่านี้ อีก เพราะดูเหมือนว่า มันอาจก่อตัวขึ้นและจบลง เหมือนที่ผ่านมา ผมยอมรับว่าตัวเอง กลัว กลัวที่จะเสียใจ กลัวที่จะเกิดการสูญเสียพลัดพรากกันไป แต่ในเมื่อ เราเกิดมาเป็นสิ่งมีชีวิต เกิดขึ้นมาจากความรัก เราก็หลีกหนีสิ่งนี้ไม่พ้น ที่ทำได้ก็แค่ยืนอยู่บนเหตุและผล ไม่ทุ่มเทกับความรู้สึกให้มากจนเกิดไป เราก็แค่สิ่งมีชีวิต ที่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์เท่านั้นและความรักก็คือปมที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นตัวช่วยในการ
แพร่พันธุ์ของสัตว์โลก
รักที่จะอยู่ด้วยกัน รักที่จะเลี้ยงดูก็แค่นั้น
นอกเหนือจากนั้น
ก็เป็นแค่สิ่งที่เราเติมแต่งให้ดูดี แค่นั้นเอง และเพื่อสร้างเล่ห์กล ดึงดูดฝ่ายตรงข้ามเพื่อแย่ง ความเป็นเจ้าของ ฉนั้น รักแท้ มันก็เป็นแค่สิ่งที่เราคิดมันขึ้นมา เพื่อผลประโยชน์บางอย่าง เท่านั้น คำว่ารัก มันก็คือความรู้สึกรัก จะมากจะน้อย มันก็แคนั้น เมื่อมันหมดลง มันก็ทิ้งร่องรอยไว้แค่นิดหน่อย เราไม่อาจย้อนกลับไปแก้ใขอะไรได้เลย ฉนั้นเราก็ควรอยู่กับปัจจุบัน ทำความเข้าใจในปัจจุบัน ให้ได้ ชีวิตจะได้ไม่ซับซ้อน ขอแค่จำไว้ว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยเหตุและผล และมันก็จบลงในช่วงเวลา ที่เราไม่สามารถ ห้ามสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านั้นได้ และสิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้น กับทุกชีวิต เพราะ ทุกอย่างนี้ มันก็คือ ธรรมชาติ สิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้ก็แค่การ ยื้อเวลา ออกไป แค่นิดหน่อย เท่านั้นเอง
สุธา สุวรรณเวลา
วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2559
หวนกลับมา
ในขณะที่เกิดเรื่องวุ่นวายมากมายและเราเองได้ห่างจากที่ตรงนี้ไป ไม่นึกเลยว่าเราจะมายืนอยู่ตรงจุดนี้อีกครั้ง กับหลายอย่างที่เราคิดและเห็นเราได้มาเขียนและระบายไว้ตรงนี้มากมายทั้งที่เผยแพร่และ เก็บไว้เพื่อเตือนสติตัวเอง ที่จุดนี้เป็นทั้งเพื่อนและที่ระบายเพียงหนึ่่งเดียวสำหรับเรา หลายคนอ่านแล้วกดติดตามผมใน g+ ผมก็ดีใจที่บางเรื่องของผมก็เป็นกำลังใจให้กับใครบางคนได้ ถึงจะน้อยนิดก็เถอะ เพราะเราทุกคนโดยผูกติดกับความรู้สึกต่างๆ มันเลยไม่แปลกที่ทุกวันเราเห็นความทุกข์เกิดขึ้นมากมาย ส่วนทางออกก็แล้วแต่ความรู้จักแก้ปัญหาของแต่ละคน ถึงอย่างไร เราก็เกิดมาร่วมบนผืนดินเดียวกันความช่วยเหลือซึ่งกันจึงเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ อยู่แล้ว ขอให้ทุกคนจงสู้และก้าวไปข้างหน้าแค่นั้นเป็น แล้วผมจะกับมาเป็นแอดมินบน ที่แห่งนี้ตามเดิม ขอบคุณผู้ติดตามด้วยคับ
สุธา สุวรรณเวลา