วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2567



เห็นแล้วหดหู่นะ คนที่เอาชีวิตตัวเองไปแลกกับอุดมคติ ทั้งที่เบื้องหลัง มันมีคนเอาไปสร้างผลประโยชน์มากมาย คงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่โลกเราหมุนมาถึงจุดนี้ เราเฝ้ามองมันและเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น สมัยก่อน สังคมก้มหน้ามันมีแค่ในเมืองใหญ่ๆ แต่ปัจจุบันมันกลับเกิดขึ้นภายใต้สถาบันครอบครัว แล้วต่อไปโลกใบนี้จะเป็นอย่างไร ในเมื่อ คนส่วนมากเลือกที่จะเป็นแบบนี้ ภายใต้จิตใจที่เศร้าหมอง อนาคตที่เติบโตขึ้นมา คงจะยาก ที่จะได้เห็นการโอบอุ้มและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อีกหน่อยการแบ่งแยกระหว่างชนชั้นจะยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น บางคนก๋ว่ามันเป็นเพราะเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด แต่ส่วนตัวเรากลับเห็นว่าคนขาดสติปัญญา มากกว่า ทุกอย่างมันเป็นเหมือนดาบสองคม มีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี มันอยู่ที่การนำไปใช้ ทุกๆอย่างก็เป็นแบบนั้น ไม่มีอะไรที่มีแค่ส่วนดีแค่ส่วนเดียวหรอก แม้แต่อารมณ์ที่เป็นนามธรรมยังสร้างโทษได้มหันต์ แม้แต่ความคิดของเราก็ยังมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ที่เราไม่ใส่ใจเพราะเรารู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นเช่นนั้น อีกอย่างเราก็เขียนมันเอาไว้เพื่อสอนตัวเอง เพียงแต่ใครเห็นและอ่านมันจะนำไปใช้เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เราให้ความสำคัญของชีวิตเท่าเทียมกัน เรายืนอยู่ในความถูกต้องและเคารพ ความจริงโดยสดุดี คนเห็นต่าง ก็ช่างเค้าเพราะอารมณ์มันเกิดกับเค้า เราไม่ได้ เอาความเห็นต่างเหล่านั้นมาลูบคลำยึดถือไว้ด้วย สักหน่อย

ไม่มีความคิดเห็น: